ใช้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดรถ อาจเกิดผลเสียคาดไม่ถึงกับรถของคุณ

แชร์ต่อ
ใช้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดรถ อาจเกิดผลเสียคาดไม่ถึงกับรถของคุณ | มิสเตอร์ คุ้มค่า

คุณต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าแค่แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดที่มีประโยชน์นานับประการ กลับเป็นตัว “ทำลาย” รถคันโปรดของคุณแบบไม่มีชิ้นดีแบบไม่ให้รู้ตัว ทั้งทำร้ายสีรถ หรือกัดกร่อนชิ้นส่วนต่าง ๆ จนยับเยิน แต่จริง ๆ แล้วการใช้แอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดรถยนต์ จะเสียหายได้มากขนาดนั้นจริงไหม ? หรือมีข้อควรระวังอะไรที่คนรักรถต้องรู้บ้าง ? มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้คุณแล้วในบทความนี้ เชิญทัศนา...

ทำไมถึงไม่ควรใช้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดรถ ?

ตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด ลุกลามมาจนถึงทุกวันนี้ “แอลกอฮอล์” ได้กลายมาเป็นหนึ่งในที่พึ่งทางใจ “ฉีดปุ้บ ปลอดภัยปั้บ” ทำให้หลาย ๆ คนนำแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาด รวมถึงใช้แอลกอฮอล์ เช็ดคอนโซลรถเพื่อป้องกันเชื้อโรคตัวร้าย แต่รู้ไหมว่าแอลกอฮอล์ไม่ได้ใช้ได้กับทุกอย่างเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อใช้กับ “รถยนต์” เพราะเสี่ยงมาก ๆ ที่จะทำให้วัสดุภายในลอกเสียหายได้!

ดังนั้นการทำความเข้าใจประเภทของแอลกอฮอล์ก่อนนำมาใช้งานกับภายในรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ นอกจากจะช่วยป้องกันแล้วยังลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายภายในห้องโดยสาร ประเภทของแอลกอฮอล์มีกี่ประเภท แต่ละประเภทเป็นยังไง เรารวบทั้งหมดมาให้ในหัวข้อต่อไปแล้ว ตามไปดูกันเลยดีกว่า

ทำความสะอาดรถยังไง ให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค เชื้อโควิดตัวร้าย ?

สำหรับคนที่เป็นกังวลที่จะใช้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดรถ แต่อีกใจยังกังวลว่าจะติดโควิด หรือมีเชื้อโรควนเวียนอยู่ภายในห้องโดยสาร วันนี้เรามีวิธีทำความสะอาด โดยไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดตัวรถโดยตรงมาบอกต่อ จะมีอะไรบ้าง ? ตามไปดูกัน

  1. ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในอากาศ

    ไม่ใช่แค่ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เท่านั้นที่ควรระวัง เพราะใน “อากาศ” มีเชื้อโรคต่าง ๆ เต็มไปหมด โดยเฉพาะเชื้อโควิดที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเป็นชั่วโมง การเลือกใช้สเปรย์ฉีดฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีและเหมาะสมมาก ๆ

  2. ล้างรถเป็นประจำ

    คุณไม่มีทางรู้เลยว่าขณะที่จอดรถอยู่มีใครสัมผัสรถของคุณบ้าง เพื่อป้องกันเชื้อโรคติดสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรถ แนะนำให้ล้างรถเป็นประจำด้วยการสวมถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง ในการหลีกเลี่ยงการสัมผัสจุดเสี่ยงโดยตรง

  3. ทำความสะอาดภายในด้วยสบู่

    อย่างที่บอกไปก่อนหน้าแล้วว่า การใช้แอลกอฮอล์ เช็ดคอนโซลรถหรือส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ อาจทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้ ดังนั้นการเลือกใช้ “สบู่” ถือเป็นหนึ่งในน้ำยาล้างรถที่ดี ไม่ทำลายชิ้นส่วนภายในรถ เพียงแค่ใช้สบู่ผสมน้ำแล้วเช็ดไปตามชิ้นส่วนต่าง ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วเช็ดออกให้แห้ง

นอกจากนี้ยังควรเลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดรถหรืออุปกรณ์ล้างรถอย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อป้องกันร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นตามมา เช่น ใช้ฟองน้ำล้างล้อรถแยกกับฟองน้ำล้างตัวถัง หรือใช้ฟองน้ำเช็ดขี้นกแยกกับฟองน้ำทำความสะอาดตัวรถเมื่อล้างรถ หน้าฝน เป็นต้น

กรณีที่คุณพลาดหรือเผลอใช้แอลกอฮอล์ เช็ดรถยนต์คันโปรดโดยตรง เช่น แอลกอฮอล์ เช็ดคอนโซลรถ หรือแม้กระทั่งเช็ดบริเวณด้านนอกรถจนทำให้ได้รับความเสียหาย รถเป็นรอยด่าง สีซีด การมีประกันรถยนต์ที่คุ้มครองประเด็นนี้ เป็น “ตัวเลือก” ที่อุ่นใจอยู่ไม่น้อย หากไม่แน่ใจว่าประกันประเภทไหนคุ้มครองบ้าง ? และค่าเบี้ยราคาเท่าไหร่ ? เข้ามาเปรียบเทียบและเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ก่อนใครได้เลย

รู้จักประเภทแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดก่อนใช้ดียังไง ?

รู้จักประเภทแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดก่อนใช้ดียังไง ? | มิสเตอร์ คุ้มค่า

การทำความรู้จักประเภทแอลกอฮอล์ก่อนใช้งาน หลัก ๆ ก็เพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน รองลงมาคือป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์คันโปรดที่คุณอยากจะดูแลอย่างดีที่สุด แต่ในท้ายที่สุดกลับกลายเป็นวิธีที่ผิด แอลกอฮอล์แต่ละประเภทมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 1. เมทิลแอลกอฮอล์ (Methyl Alcohol)

    เมทิลแอลกอฮอล์ (Methyl Alcohol) หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในชื่อว่าเมทานอล (Methanol) เป็นแอลกอฮอล์ชนิดกินไม่ได้ แถมยังก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังเมื่อสัมผัส นอกจากนี้หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก ๆ ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายด้วยเช่นกัน

    เนื่องจากเป็นสารประกอบที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการกลั่นปิโตรเคมี ประเภทถ่านหิน ซึ่งถูกนำมาใช้เป็น “ตัวทำละลายเคมี” กับงานอุตสาหกรรม เช่น เลกเกอร์เคลือบไม้ น้ำยาล้างเล็บ งานสีทาไม้ ไปจนถึงการใช้เป็นเชื้อเพลิง

  • 2. เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol)

    เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในชื่อว่า เอทานอล (Ethanol) เกิดจากการหมักยีสต์กับวัตถุดิบธรรมชาติหรือพืชต่าง ๆ ทำให้แอลกอฮอล์ประเภทนี้สามารถกิน สัมผัส หรือเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย โดยขึ้นอยู่กับ “ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ผสม”

    จุดเด่นของเอทานอล คือ ไร้สี ไร้กลิ่น แต่ติดไฟได้ง่าย จึงจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานมาก ๆ นอกจากนี้ยังแบ่งออกเป็น 2 เกรด ดังนี้

    • แอลกอฮอล์บริสุทธิ์

      เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ 99.9% ถูกจัดอยู่ในหมวดคุณภาพดีที่สุด ปลอดภัย ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์ และงานด้านเวชสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นสุรา วอดก้า เบียร์ เหล้า เป็นต้น

    • แอลกอฮอล์เกรดคอมเมอร์เชียล

      เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ 95% ไม่สามารถกินได้ แต่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำสเปรย์ฉีดพ่น รวมถึงเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง

  • 3. ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl Alcohol หรือ IPA)

    IPA เป็นแอลกอฮอล์สำหรับใช้งานภายนอก ที่คุ้นเคยกันมากที่สุด คือ “แอลกอฮอล์ล้างแผล” มีกลิ่นค่อนข้างฉุน และมักมีการผสมสีฟ้าสดเพื่อให้เห็นชัดเจน ช่วยให้แยกประเภทออกจากเอทานอลได้ดี

    แม้ว่าแอลกอฮอล์ประเภทนี้จะฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ไม่ควรนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำเจล หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือ เนื่องจากถ้าหากไปสัมผัสกับปากโดยตรง หรือผ่านการปนเปื้อนไปในทางอาหารที่กำลังเข้าปาก จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้

จะเป็นยังไง ถ้าใช้เอทานอลเช็ดรถคันโปรด ?

หลังจากทำความเข้าใจประเภทของแอลกอฮอล์มาแล้ว คงเห็นแล้วว่า “เอทานอล” คือประเภทของแอลกอฮอล์ที่ปลอดภัยต่อรถยนต์คู่ใจมากที่สุด หากจะนำแอลกอฮอล์ เช็ดรถจะดีไหม ? แน่นอนว่าเอทานอลระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่า IPA แถมยังมีความปลอดภัยและก่อให้เกิดความเสียหายน้อยกว่า

อย่างไรก็ตามการใช้แอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดให้เกิดผลดีมากที่สุด คือ “ไม่ควรฉีดหรือราดไปที่พื้นผิวโดยตรง” เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองแล้ว ยังทำให้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดโดยวัสดุมากเกินจำเป็น ทางที่ดีควรใช้สำลีหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบเพียงเล็กน้อย จากนั้นค่อย ๆ เช็ดอย่างเบามือ

กรณีที่วัสดุภายในรถเป็นหนังหรือเคลือบแว็กซ์เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนัง พวงมาลัย หัวเกียร์ ฯลฯ ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากการใช้แอลกอฮอล์ เช็ด อาจเป็นการชะล้างความมันที่เคลือบผิวอยู่ออกไป จนเกิดการแห้งลอกหรือสีซีดได้

ทิ้งสเปรย์แอลกอฮอล์ไว้ในรถ อันตรายไหม ?

อีกหนึ่งความกังวลใจของใครหลาย ๆ คน คือ “ทิ้งสเปรย์แอลกอฮอล์ไว้ในรถ อันตรายไหม” บอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่อันตราย เนื่องจากไม่มีแรงดันเหมือนกับสเปรย์ปรับอากาศทั่วไป เพียงแต่อุณหภูมิภายในรถที่สูงขึ้น อาจทำให้แอลกอฮอล์เกิดการระเหย ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อลดลง แนะนำว่าควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรงจะดีกว่า

และหลายคนที่คิดว่า “แอลกอฮอล์ทำให้รถไฟไหม้ได้” ข้อนี้ไม่จริงเลยสักนิด เนื่องจากปริมาณแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดมือ หรือสิ่งต่าง ๆ ภายในรถ มีความเข้มข้นเพียง 70% และน้ำอีก 30% แม้จะฉีดพ่นภายในห้องโดยสารก่อไม่ทำให้ไฟไหม้ได้ ยกเว้นว่าคุณจะฉีดมันใกล้กับเปลวไฟ หรืออุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดประกายไฟ

สรุปแล้วการเลือกใช้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดรถ ไม่ว่าจะแอลกอฮอล์ เช็ดคอนโซลรถหรือส่วนไหน ๆ ก็ตาม สามารถทำได้ แต่ไม่ควรฉีดหรือราดไปโดยตรง เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ กรณีที่อยากปกป้องรถและตัวคุณเองจากเชื้อโรค ควรล้างรถเองหรือเข้าคาร์แคร์เป็นประจำ เพียงแค่นี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่อาจตามมาจากเชื้อโรคหลากประเภทได้ไม่ยากแล้ว

คำจำกัดความ
​​ผลพลอยได้ ​ผลดีที่ได้รับนอกเหนือจากผลที่ได้ตามความุ่งหมายหลัก
​ชะล้าง ​ทำให้หมดสิ้นไปโดยใช้สิ่งเช่นนํ้าหรือไฟเป็นต้น และมีกรรมวิธีต่าง ๆ เช่น กวาดล้าง ชะล้าง ชำระล้าง ล้างกลิ่น ล้างคาว ล้างถู
​ระเหย ​อาการที่สสารเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอ​

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่