หัวข้อที่น่าสนใจ
- ยี่ห้อรถตลาด ฮิตในไทยมานาน มีอะไรบ้าง ?
- 1. TOYOTA
- 2. HONDA
- 3. ISUZU
- ชี้เป้า 3 แบรนด์รถมาแรง 2024 มีอะไรบ้าง ?
- 1. GWM
- 2. MG
- 3. Neta v
- ออกรถคันแรก เสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
- 1. ค่างวดรายเดือนพร้อมดอกเบี้ย
- 2. ค่ามัดจำป้ายแดง
- 3. ค่าภาษีและ พ.ร.บ.รถยนต์
- 4. ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
- ราคาประกันชั้น 1 ค่อนข้างสูง ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ?
อยากถอยรถใหม่สักคัน แต่ไม่รู้จะต้องเลือกยี่ห้อรถอะไรดี จะใช้แบรนด์เดิมก็เบื่อ จะเปลี่ยนใหม่ก็ลังเล มิสเตอร์ คุ้มค่า เลยได้ลิสต์ “ยี่ห้อมาแรง” แบรนด์น่าสนใจในปี 2024 มาให้ น่าสนใจและตอบโจทย์แค่ไหน ตามไปทำความรู้จักก่อนดาวน์รถกันเลยดีกว่า
ยี่ห้อรถตลาด ฮิตในไทยมานาน มีอะไรบ้าง ?
เมื่อพูดถึงยี่ห้อรถในใจของหลาย ๆ คน แน่นอนว่าต้องเป็นรถตลาด “ตัวแม่ก็คือตัวแม่” อย่างแบรนด์ Toyota, Nissan, Honda อย่างแน่นอน ที่แม้จะโดนกระแสถาโถมจากรถจีนเข้าซัดด้วยฟีเจอร์และราคา ทว่ามิอาจสะเทือน ด้วยความเชื่อมั่นที่สร้างไว้แก้ตลาดเมืองไทยมาอย่างยาวนาน ความมั่นใจในตัวรถ และบริการหลังการขาย คือคีย์สำคัญที่ทำให้แบรนด์เหล่านี้ยังครองใจคนไทย แต่ละยี่ห้อจะมีจุดขายน่าสนใจแค่ไหน? ตามไปดูกันเลย
1. TOYOTA
toyota ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะโตโยต้า, รถครอบครัว 7 ที่นั่ง, รถฟอร์จูนเนอร์ หรือใด ๆ ก็ตาม ถือเป็น “เจ้าตลาดรถยนต์” ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสะดุดไปบ้าง แต่ก็ยังรักษาตำแหน่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 เอาไว้ได้
โดยมียอดจดทะเบียนในเดือนมกราคม 2024 อยู่ที่ 20,338 คัน มีทั้งที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย และรถที่นำเข้ามาจดทะเบียน ตามรายละเอียดต่อไปนี้
- รถกระบะโตโยต้า จำนวน 3,702 คัน
- รถครอบครัว 7 ที่นั่ง จำนวน 16,636 คัน
2. HONDA
สำหรับ HONDA ถือว่าได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะรถเก๋งที่มียอดจำหน่ายสูสีกับ TOYOTA ซึ่งในเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรถใหม่ สำหรับรถ SUV ไม่เกิน 7 ที่นั่ง จำนวน 11,073 คัน
3. ISUZU
เมื่อพูดถึง “เจ้าแห่งรถกระบะในเมืองไทย” นาทีนี้ต้องยกให้รถอีซูซุแล้วล่ะ เนื่องจากเป็นยี่ห้อรถที่มียอดขายรถกระบะมากที่สุด โดยเฉพาะรถกระบะ 4 ประตูเชิงพาณิชย์ ที่นำมาใช้งานมากที่สุด โดยมียอดรถจดทะเบียนในเดือนมกราคม 2024 จำนวน 6,904 คัน
ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่แค่รถใหม่ป้ายแดงที่ได้รับความนิยมเท่านั้น แต่รถปาเจโร่, รถมิตซูบิชิ หรือแม้กระทั่ง HRV มือสอง ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นยี่ห้อรถยนต์ที่จะซื้อหรือจะขายก็ซื้อง่ายขายคล่องสุด ๆ
ชี้เป้า 3 แบรนด์รถมาแรง 2024 มีอะไรบ้าง ?
แต่ถ้าหากคุณรู้สึกเบื่อ “รถตลาด” ไม่ติดที่จะเล่นยี่ห้อรถใหม่ ๆ ไม่ใช่เจ้าแห่งตลาดรถยนต์ในไทย แต่ให้มากกว่าเรื่องความคุ้มค่าจากฟีเจอร์แน่น ๆ ในราคาที่เท่ากันหรือ “ถูกกว่า” โดยเฉพาะแบรนด์จากแดนมังกรที่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ทยอยบุกตลาดเมืองไทยอย่างแข่งขันเล่นซะแบรนด์ญี่ปุ่นปิดโรงงานกลับบ้านไปหลายราย เรามีมาฝากด้วยแบรนด์ไหนบ้างที่น่าจับตามาไปดูกันเลย
1. GWM
หากคุณรู้จัก ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้าสุดน่ารัก สไตล์วินเทจ รู้ไว้เลยว่าเป็นของ GWM หรือ Great Wall Motor ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หนึ่งใน “ผู้นำด้านนวัตกรรม” จากแดนมังกร มาพร้อมกับรถ HAVAL H6 ที่มีให้เลือก 2 สไตล์ ภายในตกแต่งเรียบหรู ภาคนอกก็มีรูปลักษณ์ชูเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ยังพร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ ด้วยโหมดขับขี่ 4 รูปแบบ รองรับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น
2. MG
แม้ว่าหลายคนจะเคยรู้จักรถ mg รถยนต์ระดับตำนานจากอังกฤษมาบ้างแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปีนี้ 2024 ก็กำลังมาแรงไม่แพ้กัน กับ NEW MG4 ELECTRIC รถ ev ที่พร้อมเปลี่ยนทุกประสบการณ์บนทุกเส้นทางให้เต็มสปีด มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้การเกาะถนนที่ดีขึ้น แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพอัตราเร่ง ปรับแต่งโหมดขับขี่ให้เหมาะกับทุกสไตล์ได้ถึง 5 รูปแบบ
3. Neta v
เตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับ Neta v รถพลังงานไฟฟ้า 100% รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว แถมยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตในเมืองเป็นหลัก
ซึ่งในปี 2024 Neta v เปิดตัวมาพร้อมกับรถ ev รุ่น Neta Neta v-II รับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน ฟรีค่าแรงและอะไหล่เมื่อเช็คระยะตลอด 40,000 กิโลเมตรแรก
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายค่ายที่มาแรงไม่แพงกัน โดยเฉพาะกลุ่มรถ EV ไม่ว่าจะเป็น BYD, Changan, Omoda&Jaecoo, Xpeng ฯลฯ กลุ่มแบรนด์เหล่านี้ล้วนน่าจับตามองสำหรับคนกำลังมองหารถใหม่เป็นอย่างมาก ใครที่กำลังมองหารถพลังงานสะอาดกว่า ประหยัด เน้นคุ้มค่า ลองมองที่แบรนด์เหล่านี้อาจเป็นคำตอบของคุณได้ไม่ยากนัก
ออกรถคันแรก เสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
การออกรถใหม่ใช่ว่ามีเงินดาวน์รถยนต์แล้วก็จบ แต่มันยังมีสิ่งที่ต้องเตรียมอื่น ๆ อีกเพียบ โดยเฉพาะ “ค่าใช้จ่าย” ที่มือใหม่ออกรถป้ายแดงจำเป็นต้องรู้ก่อน จะมีอะไรบ้าง? ตามไปดูกันเลย
1. ค่างวดรายเดือนพร้อมดอกเบี้ย
หลังจากที่เตรียมเงินดาวน์รถยนต์เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมาก็ต้องเตรียม “ค่าผ่อนรถยนต์” ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 48 เดือน มากสุด 72-84 เดือน โดย “ระยะเวลาการผ่อน” ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องแลก เช่น ผ่อนน้อย จ่ายนาน แต่ค่าเบี้ยสูง ดังนั้นหากอยากออกรถแบบผ่อน แนะนำให้วางแผนการเงินในสเต็ปนี้ให้ดีก่อน
2. ค่ามัดจำป้ายแดง
หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่า “ป้ายแดง” ต้องมีค่ามัดจำด้วย ส่วนใหญ่จะมีอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท แล้วแต่โชว์รูม ซึ่งในส่วนนี้ไม่ต้องกังวล เพราะจะได้รับค่ามัดจำคืนทันทีที่ได้ป้ายขาว และนำป้ายแดงไปคืน
3. ค่าภาษีและ พ.ร.บ.รถยนต์
ค่าภาษีและค่า พ.ร.บ.รถยนต์ ถือเป็น “ค่าใช้จ่ายรายปี” ที่ต้องชำระตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำ พ.ร.บ.รถยนต์ จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และทำให้เสียภาษีรถยนต์ไม่ได้ นอกจากนี้หากไม่ต่อภาษีรถยนต์เกิน 3 ปี จะถูกระงับป้ายทะเบียนด้วย
4. ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ถือเป็น “ความคุ้มครองเพิ่มเติม” นอกเหนือจากความคุ้มครองที่จะได้รับจาก พ.ร.บ.รถยนต์ อย่างค่าซ่อมรถ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ประกันชั้น 1, 2+, 3+ และอื่น ๆ ที่ให้ความคุ้มครองและมีค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ต้องเตรียมเท่านั้น แต่เมื่อถอยรถออกมาแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องตระเตรียมอีกเรื่อย ๆ ทั้งค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ไปจนถึงค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ แนะนำให้วางแผนการเงินให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาในภายหลังได้
รถใหม่จำเป็นต้องทำประกันชั้น 1 เสมอไปไหม ?
หลายคนมักมองว่า “รถใหม่ต้องคู่กับประกันชั้น 1 เท่านั้น” ไม่ว่าจะเป็นรถตลาด หรือรถแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว บอกไว้เลยว่าไม่เป็นความจริงเสมอไป เพราะบางคนไม่ได้มีความเสี่ยงของการใช้รถ หรือทำให้รถสูญหาย การเลือกทำประกันชั้นอื่นก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของ “ค่าเบี้ยประกัน” ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ต้องสำรวจตัวเองให้ดี ว่ามีไลฟ์สไตล์การขับขี่หรือการใช้ชีวิตยังไง สถานที่จอดรถเสี่ยงแค่ไหน หากเสี่ยงมาก ๆ การทำประกันชั้น 1 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แนะนำให้เปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จากหลาย ๆ บริษัทประกัน เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองในราคาสบายกระเป๋ามากที่สุด
กรณีที่ไม่รู้ว่าควรจะทำประกันชั้น 1 กับที่ไหน หรืออยากเช็ค/เปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ดีก่อน สามารถเข้ามาเช็คราคาประกันรถยนต์กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรามีแผนประกันให้เลือกหลากหลาย แถมยังราคาดีมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่พร้อมเคียงข้างคุณทุกช่วงเวลา
ราคาประกันชั้น 1 ค่อนข้างสูง ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ?
หนึ่งในเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ โดยเฉพาะคนที่อยากทำประกันชั้น 1 คือ “ความคุ้มครอง” ซึ่งหลัก ๆ ก็มีความคุ้มครองดังต่อไปนี้
- ความรับผิดต่อความเสียหายของรถยนต์คันที่เอาประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยสามารถเคลมได้ทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุทั้งมีและไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนกำแพง, หินดีดกระจกแตก, กิ่งไม้หล่นใส่ เป็นต้น
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกัน คู่กรณี และบุคคลภายนอก
- คุ้มครองและชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลแก่ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี
- ชดเชยความเสียหายกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
- เงินค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
การออกรถใหม่ป้ายแดง ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อรถที่เป็น “รถตลาด” หรือรถใหม่มาแรงในปี 2024 รวมถึง “ประเภทรถยนต์” เช่น รถ SUV, รถเก๋ง, รถครอบครัว 7 ที่นั่ง หรืออื่น ๆ ล้วนขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจส่วนบุคคล จะแบรนด์พี่ยุ่นหรือพี่ตี๋อันนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละคน แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ “มากที่สุด” รองจากสมรรถนะของรถยนต์ก็คือ “ค่าใช้จ่าย” ที่เกิดขึ้นตามมา รวมถึงความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ที่ต้องการซื้อ เพื่อให้คุณใช้งานรถใหม่ได้อย่างอุ่นใจ สบายใจตลอดการครอบครองรถที่คุณอุตส่าห์คัดสรรด้วยตัวเองมาเป็นอย่างดี
คำจำกัดความ
รถตลาด | รถที่ได้รับความนิยม |
รถเก๋ง | รถยนต์นั่งที่มีประทุน หรือหลังคากันแดดฝน โดยสารรวมคนขับแล้วได้ไม่เกิน 7 คน |
มัดจำ | สิ่งที่ให้ไว้เป็นหลักฐานเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา |