“หัวใจสำคัญ” ของรถไฟฟ้าหรือ รถ EV ทั้งแบบรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แน่นอนหลัก ๆ ไม่พ้นเรื่องแบตเตอรี่ หากต้องการให้รถคู่ใจอยู่กับคุณไปนาน ๆ จำเป็นจะต้องรู้ วิธียืดอายุแบตเตอรี่ และวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี MrKumka ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้กับคนที่กำลังมองหารถ EV มาใช้งานสักคัน เข้าใจก่อนซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ดูแลเป็น ใช้งานได้นาน ตามเราไปดูพร้อม ๆ กันเลย
บอกต่อ วิธียืดอายุ แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ ให้อยู่ทน อยู่นาน !
รถยนต์ EV มาแรง ยิ่งถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ ยิ่งนิยมกันอย่างแพร่หลาย ทั้งแบบวิ่งบนถนนใหญ่ได้และวิ่งแถวบ้านเพราะช่วยประหยัดค่าเดินทางหรือการใช้งานได้เยอะ หากพูดถึงตัว “ราคา” ของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมไปถึงอะไหล่และชิ้นส่วนต่าง ๆ มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นเมื่อซื้อมาแล้วถ้าอยากให้รถอยู่ได้นานนาน ทนทาน โดยเฉพาะส่วนของ “แบตเตอรี่” หัวใจสำคัญของรถประเภทนี้ในการขับเคลื่อน จะมีวิธียืดอายุการใช้งานอย่างไร ไปดูกัน
- หลีกเลี่ยงการใช้งานด้วยความเร็วสูงบ่อย ๆ
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% และไม่ควรใช้งานจนแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20%
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่กำลังสูงบ่อย ๆ
- ควรตรวจสอบระบบหล่อเย็น และซ่อมบำรุงรถอยู่เสมอ
ต้องบอกก่อนว่าแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ จะมีอายุการใช้งานมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ “พฤติกรรมการใช้งาน” ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากไม่อยากให้แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์เสื่อม หรือพังเร็วเกินไป ควรใช้งานอย่างถูกต้อง เพียงทำตามวิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเท่านี้ ก็จะช่วยให้ใช้งานไปได้อีกหลายปีเลยล่ะ
วิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังไง ให้ใช้งานได้นานกว่า !
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี หากซื้อเอาไว้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ แต่จะคุ้มค่ากว่าหากคุณ “ดูแล” อย่างถูกต้อง แต่จะต้องดูแลยังไงให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน เรามี วิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาให้ !
พักเครื่องหลังใช้งานเสมอ
ขึ้นชื่อว่า “แบตเตอรี่” หลังจากใช้งาน ย่อมมีความร้อนพ่วงท้ายมาด้วยเสมอ กรณีที่ต้องการชาร์จแบตเตอรี่ หากไม่อยากให้แบตเสื่อมอายุเร็วเกินไป แนะนำให้ “พักรถไว้ในที่ร่ม” ประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคลายความร้อนแล้วค่อยชาร์จ
นอกจากนี้ยังควรใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเฉพาะยี่ห้อ และเฉพาะรุ่นเท่านั้น เนื่องจากแบตเตอรี่ของแต่ละรุ่น/ยี่ห้อ มี “กำลังวัตต์” ที่แตกต่างกัน หากใช้ที่ชาร์จมั่วอาจทำให้เกิดอันตรายได้
เลี่ยงการขี่ลุยน้ำท่วมขัง
จำไว้เลยว่า “ไฟฟ้าไม่ถูกกับน้ำ” แม้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะถูกพัฒนาให้ดีมากแค่ไหน หรือสามารถขับลุยน้ำได้ ก็ไม่ควรขับลุยเด็ดขาด โดยเฉพาะน้ำท่วมขังที่มีความสูงเกินครึ่งล้อของรถ หากฝืนขับต่อไปหรือรั้นอยากจะทดสอบประสิทธิภาพของรถ รับรองว่าคุณจะต้องปวดหัวกับค่าซ่อมแน่นอน และนี่คือหัวใจสำคัญของยืดอายุแบตเตอรี่ ยืดอายุรถ และ วิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เมื่อเกิดน้ำท่วม
หลีกเลี่ยงการจอดรถนอกบ้าน
“นอกบ้าน” ในที่นี้หมายถึงบริเวณที่ไม่มีหลังคา หรือร่มเงาใด ๆ หากคุณปล่อยให้แบตเตอรี่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโดนความร้อนเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเสื่อมเร็วกว่าปกติแล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพการใช้งาน และความจุของแบตเตอรี่ลดลงอีกด้วย
คิดจะใช้รถแบบนี้ควรศึกษา “คู่มือ” ของรถประเภทนั้น ๆ ให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาในอนาคต และควรระมัดระวัง “ความรั้น” ของตัวเองให้ดี เช่น ลองขับรถลุยน้ำเพื่อทดสอบการกันน้ำ หรือทดสอบความทนทานของแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ด้วยการจอดรถไว้กลางแจ้ง เพราะนอกจากจะทำให้รถและแบตเตอรี่เกิดความเสียหายแล้ว ยังอาจทำให้คุณและคนรอบข้างได้รับอันตรายได้
เป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสักคัน ต้องรู้อะไรก่อน ?
ก่อนจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (Electic Motorcycles) คือ ยานพาหนะที่ใช้ “มอเตอร์” กักเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ แทนการใช้เครื่องยนต์และน้ำมันเชื้อเพลิง รถแต่ละรุ่นและแต่ละยี่ห้อจะมีแบตเตอรี่แตกต่างกันออกไป หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เราได้ลิสต์ข้อดีและข้อจำกัดของรถประเภทนี้มาให้เรียบร้อยแล้ว ไปทำความเข้าใจก่อนเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากันเลยดีกว่า !
ข้อดีของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
- ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มาก
- ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในสิ่งแวดล้อม
- ใช้งานง่าย ขับขี่สะดวก
- ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
ข้อจำกัดของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
- จำเป็นต้องพิจารณาก่อนนำไปใช้งาน เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของ “ระยะทาง”
- หากแบตเตอรี่ชำรุด จำเป็นจะต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น
- มีราคาสูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
- เปลี่ยนอะไหล่ และทำการซ่อมแซมได้ยาก
- ขับขึ้นทางลาดชันค่อนข้างลำบาก เนื่องจากแรงขับจะตก
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทย
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ก่อนหน้านี้มีชื่อเรียกว่า “สกู๊ตเตอร์” มีลักษณะการใช้งาน/ขับขี่ที่ง่ายกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับความเร็วแล้ว ถือว่ายังทิ้งห่างอยู่มาก นอกจากนี้ “กรมการขนส่งทางบก” ยังไม่อนุญาตให้นำมาขับขี่บนท้องถนน และไม่สามารถจดทะเบียนได้ จึงทำให้รถประเภทนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แม้ว่าจะให้ความสะดวกสบายเพียงใดก็ตาม
ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเรียกได้ว่า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “เทียบเท่า” กับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปได้แล้ว แถมยังสามารถนำออกมาขับขี่บนท้องถนนได้ เพียงแค่ทำการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อย โดยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถนำมาจดทะเบียนได้ จะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 0.25 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 0.33 แรงม้า และต้องทำความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยปัจจัยใดก็ตาม วิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทั้งตัวรถและแบตเตอรี่ถือว่ามีความสำคัญมาก ๆ ยิ่งถ้าหากนำวิธีดูแลรถที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้นไปปรับใช้ รับประกันเลยว่ารถคู่ใจของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแน่นอน นอกจากนี้อย่าลืมนำไปจดทะเบียนด้วยล่ะ (ถ้าสเปคถึง)