เคลือบสีรถ VS เคลือบแก้วและอื่นๆ ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดีกว่า ?

แชร์ต่อ
เคลือบสีรถ เทียบกับเคลือบแก้วและอื่น ๆ ต่างกันยังไง? | MrKumka.com

รถสีสวยๆ ใครก็อยากมี และต้องใช้การดูแลปกป้องเข้าช่วย เคลือบสีรถน่าจะช่วยได้ แต่จะช่วยได้จริงหรือ ? พวกน้ำยาเคลือบสีรถจะช่วยดูแลรักษารถยนต์ได้แค่ไหน ? บางคนที่ยังไม่รู้ว่าการเคลือบสีรถยนต์คืออะไร ? มีแบบไหนบ้าง ? MrKumka ได้ลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้เกี่ยวกับการดูแลสีรถ คนรักรถต้องห้ามพลาดประเด็นนี้ตามไปดูกันเลย!

เคลือบสีรถคืออะไร ? จำเป็นต่อการดูแลรักษารถยนต์แค่ไหน ?

รถเงางามย่อมน่ามองกว่า เหมือนกับการแต่งตัวสวยหล่อออกจากบ้านอย่างมั่นใจ การเคลือบสีรถคือประตูสู่ความงามนั้น “การขัดแว็กซ์” หรือน้ำยาพิเศษสำหรับเคลือบสีรถเพื่อเพิ่มความเงางามให้กับรถยนต์ ทำให้สีรถยนต์สดใส และมีความเงางามอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังถือเป็นการดูแลรักษารถยนต์ที่ดีมาก ๆ เนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้รถเป็นรอยจากสิ่งสกปรก นอกจากนี้น้ำยาเคลือบสีรถยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำเกาะผิวรถจนเป็นคราบได้อีกด้วย

แต่เนื่องจากการเคลือบสีรถมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง หลายคนที่รักรถและอยากดูแลรักษารถยนต์จึงเกิดความสงสัยตามมาว่า “จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มจริง ๆ เหรอ?” คำตอบคือ “ไม่จำเป็น” ที่จะต้องจ่ายเพิ่มขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและกำลังทรัพย์ของแต่ละคนเป็นสำคัญ

ไขข้อสงสัย เคลือบสีรถมีกี่แบบ ?

ไขข้อสงสัย เคลือบสีรถมีกี่แบบ | MrKumka.com

ปัจจุบันการเคลือบสีรถมีให้เลือกเต็มไปหมด หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกไม่ได้ว่าควรเคลือบสีรถ หรือเลือกน้ำยาเคลือบสีรถแบบไหน MrKumka ลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้เรียบร้อยแล้ว ไปดูกันเลย!

  • 1. เคลือบสีรถ ประเภทน้ำ

    หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อว่า “โพลิเมอร์ซีลแลนท์” เปรียบเหมือนการเคลือบฟิล์มกันรถเป็นรอยบาง ๆ ไปทั่วทั้งคัน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อรักษาสีรถยนต์เป็นหลัก ไม่ได้เน้นความเงางาม จึงเหมาะกับรถที่ใช้งานบ่อย ๆ และต้องการดูแลรักษารถยนต์ในเรื่องของสีให้สดใหม่อยู่เสมอ

    โดยการเคลือบสีรถลักษณะนี้มีจุดเด่นคือ สามารถทนต่อความร้อนได้สูงถึง 140 องศา ทำให้ปกป้องสีรถยนต์ได้ดีกว่าและนานกว่าแบบแว็กซ์ โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ได้นานถึง 4-8 สัปดาห์

  • 2. เคลือบสีรถ ประเภทซิลิโคน

    เปรียบเหมือนการใช้ยางใสเคลือบไปทั้งตัวถังรถ เพื่อป้องกันรถเป็นรอยขีดข่วนเล็ก ๆ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันสีรถยนต์ซีดจางได้อีกด้วย มีข้อดีคืออายุการใช้งานที่อยู่ได้นานนับปี แถมยังมีความแวววาวเงางามเหมือนกับแบบแว็กซ์ มากไปกว่านั้นยังป้องกันได้ทั้งฝุ่น น้ำ และรังสียูวีจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในส่วนของข้อจำกัด คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรอยขีดข่วนได้ไม่สูงมาก แถมยังมีราคาค่อนข้างสูง หากคิดอยากจะดูแลรักษารถยนต์ด้วยวิธีนี้ แนะนำให้เปรียบเทียบปัจจัยต่าง ๆ ให้ดีก่อน

  • 3. เคลือบเงารถ ประเภทแว็กซ์

    ถือเป็นการเคลือบสีรถที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการเคลือบสีรถยนต์ทั่วไป ที่ใช้ครีมขัดสีพร้อมการเคลือบสีรถไปด้วย พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการเคลือบสีรถที่ราคาถูกที่สุด และทำได้ง่ายที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายในเรื่องอุปกรณ์เคลือบเงารถประมาณ 300-1,500 บาท แต่อายุการเคลือบค่อนข้างสั้น โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7-14 วัน ตามคุณภาพของแว็กซ์หรือน้ำยาเคลือบสีรถที่นำมาขัด

  • 4. เคลือบแก้วรถยนต์

    ถือเป็นเทคโนโลยีการเคลือบสีรถที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันคราบน้ำ คราบน้ำฝน คราบโคลน และยางมะตอยได้แล้ว ยังช่วยไม่ให้สิ่งสกปรกอื่น ๆ เกาะฝั่งแน่นบนรถได้อีกด้วย แถมยังมีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน ประมาณ 3-5 ปี ช่วยให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ตลอดเวลา

    ในส่วนของ “ค่าใช้จ่าย” บอกเลยว่าการเคลือบแก้วมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับการเคลือบสีรถแบบอื่น ๆ ดังนั้นรถยนต์ที่นิยมเคลือบสีรถประเภทนี้ จึงมีเฉพาะรถซูเปอร์คาร์และรถหรูราคาแพงเท่านั้น

ทำสีรถยนต์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองหรือไม่ ?

กรณีที่ทำสีรถยนต์มาทั้งคัน เชื่อว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองหรือไม่? คำตอบคือเมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถแจ้งเคลมประกันได้ทันที หากต้องการความคุ้มครองในเรื่องสีรถยนต์โดยเฉพาะ จะมีเพียงประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่ให้ความคุ้มครอง แม้ประกันชั้น 1 ราคาจะสูง แต่เมื่อเทียบกับ “ความคุ้มครอง” ที่ได้รับ บอกเลยว่าอุ่นใจตลอดการเดินทางแน่นอน

นอกจากการให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลรักษารถยนต์แล้ว การให้ความสำคัญในการเลือกประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หากไม่รู้ว่าจะต้องเลือกกับที่ไหน ที่ประกันชั้น 1 ราคาสบายกระเป๋า ให้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่ MrKumka พร้อมเสนอแผนประกันที่เหมาะสมให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง เช็กเบี้ยประกันออนไลน์ก่อนใครได้แล้ววันนี้

วิธีดูแลรักษารถยนต์หลังจากเคลือบสีรถมาแล้ว มีอะไรบ้าง ?

หลังจากรถยนต์คู่ใจได้ลงน้ำยาเคลือบสีรถมาเรียบร้อยแล้ว หลายคนคงสงสัยในเรื่องของการดูแลรักษารถยนต์หลังจากเคลือบสีรถมาแล้วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเคลือบแก้วที่มีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งจะมีวิธีการดูแลยังไงบ้าง ตามไปดูกันเลย!

  • 1. รอให้ชั้นฟิล์มเซ็ทตัวให้ดีก่อนล้างรถหรือโดนสารเคมี

    หากมีความจำเป็นต้องล้างรถ เช่น เปื้อนคราบดินหรือคราบโคลน แนะนำให้ล้างด้วยน้ำเปล่าเท่านั้น จนกว่าชั้นเคลือบจะเซ็ทตัว โดยปกติมักใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์

  • 2. ล้างรถด้วยน้ำเปล่าเป็นความเชื่อที่ผิด

    การล้างรถด้วยน้ำเปล่าจะทำแบบนี้เฉพาะในตอนที่ชั้นฟิล์มยังไม่เซ็ทตัว แต่ถ้าหากเซ็ทตัวดีแล้วให้ล้างด้วยแชมพูหรือโฟมสำหรับล้างรถที่มีค่า pH เป็นกลาง และปลอดภัยต่อชั้นเคลือบ เนื่องจากแชมพูล้างรถจะสร้างชั้นฟิล์มเพื่อยกฝุ่นให้ลอยจากผิวรถยนต์ ทำให้รถเป็นรอยจากการล้างน้อยลง

  • 3. ควรใช้อุปกรณ์และน้ำยาที่ปลอดภัยต่อสีรถยนต์

    น้้ำยาล้างรถบางประเภทมีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง หากใช้น้ำยาประเภทนี้บ่อย ๆ อาจทำให้ชั้นเคลือบได้รับความเสียหาย รวมถึงถุงมือล้างรถ ผ้าสำหรับเช็ดรถยนต์ แนะนำให้เลือกใช้ที่เหมาะกับสีรถยนต์ เพราะจะช่วยลดการเกิดรอยและลดการเสียหายของชั้นเคลือบได้ดี

ข้อดีและข้อสังเกตการเคลือบสีรถ มีอะไรที่ควรรู้ก่อน ?

สำหรับคนที่อยากดูแลรักษารถยนต์ด้วยการเคลือบสีรถ เราอยากให้คุณทำความเข้าใจข้อดีและข้อสังเกตต้องรู้ก่อน เนื่องจากการดูแลสีรถยนต์รูปแบบนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเพื่อให้การตัดสินใจของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

ข้อดีของการเคลือบสี/เคลือบเงารถ

  • ช่วยป้องกันคราบน้ำหรือคราบน้ำฝน ที่เป็นสาเหตุหลักในการทำลายสีรถยนต์
  • ช่วยยืดอายุของสีรถยนต์ไม่ให้หมองหรือซีดจางลง ซึ่งเรียกว่าเป็นการช่วยถนอมสีรถยนต์ไม่ให้เก่านั่นเอง
  • ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ เนื่องจากการใช้รถในชีวิตประจำวัน เช่น ขี้นก ฝุ่น ขี้โคลน
  • ช่วยให้รถยนต์มีความเงางาม เหมือนรถใหม่อยู่ตลอดเวลา

ข้อสังเกตของการเคลือบสี/เคลือบเงารถ

  • การเคลือบบางประเภทมีอายุอยู่ได้ไม่นาน ทำให้ต้องเคลือบสีรถบ่อย ๆ
  • การเคลือบสีรถบางประเภทมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
  • หากใช้การเคลือบสีรถแบบเคลือบแก้ว อาจทำให้เกิดปัญหาการแตกของสารเคลือบเมื่อใช้งานมาระยะหนึ่งได้

ทั้งหมดนี้เป็นการรวบรวมข้อดีและข้อสังเกตต้องรู้มาจาก “ผู้ใช้งานจริง” ซึ่งถ้าหากจะถามว่าควรเคลือบสีรถดีหรือไม่? คนที่สามารถตอบคำถามข้อนี้ได้ก็คือตัวคุณเอง แนะนำให้ชั่งน้ำหนักของข้อดีและข้อเสียให้ดี เพื่อให้การตัดสินใจของคุณมีประสิทธิภาพ และเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และที่สำคัญอย่าลืมวางแผนในเรื่อง “ค่าใช้จ่าย” ให้ดีด้วย เพราะการเคลือบแต่ละประเภทใช่ว่าจะเคลือบครั้งเดียวจบ

ต้องยอมรับว่าการเคลือบสีรถในปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในวิธีดูแลรักษารถยนต์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ยิ่งเลือกน้ำยาเคลือบสีรถดีแค่ไหน ราคาจ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย หากอยากจะเคลือบสีรถจริง ๆ แนะนำให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน และควรให้ความสำคัญกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัย และอุ่นใจตลอดการเดินทาง

คำจำกัดความ
เคลือบสีรถ การขัดแว็กซ์หรือน้ำยาพิเศษสำหรับเคลือบสีรถ เพื่อเพิ่มความเงางามให้กับรถให้มีสีสันสดใส และมีความเงางามอยู่เสมอ
ค่า pH ค่าที่แสดงความเป็นกรด-เบส ของสารที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยค่า pH จะอยู่ในช่วง 1-14 ถ้าค่า pH น้อยกว่า 7 สารชนิดนั้นก็จะมีฤทธิ์เป็นกรด และถ้าค่า pH มากกว่า 7 สารชนิดนั้นก็จะมีฤทธิ์เป็นเบสหรือด่าง แต่ถ้าค่า pH นั้นมีค่าเท่ากับ 7 แสดงว่าสารชนิดนั้นเป็นกลางหรือที่เรียกว่า pH balance

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่