อย่าทำ 5 ข้อนี้ ! ถ้าหน้าร้อนไม่อยากให้ แอร์รถไม่เย็น ขับไปก็ร้อนไป

รู้ก่อนว่าอะไรทำให้ แอร์รถไม่เย็น

ต้องบอกก่อนว่า “สาเหตุ” ที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ หากนึกไม่ออกเราลิสต์มาให้แล้ว ไปดูกัน !

• 1. น้ำแอร์รถยนต์หมด

  ไม่ว่าคุณจะเผชิญหน้ากับปัญหาแอร์ไม่เย็น เย็นน้อย หรือเย็นเป็นช่วง ๆ อาจเป็นเพราะว่า “น้ำยาแอร์หมด หรือเหลือน้อย” ก็เป็นได้ ซึ่งสาเหตุดังกล่าวส่งผลให้น้ำยาแอร์ที่ถูกส่งจากคอมเพรสเซอร์แอร์ “เพิ่มแรงดัน” เข้าสู่แผงคอยล์เย็น เพื่อทำหน้าที่ดูดจับความร้อนภายในห้องโดยสารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภายในห้องโดยสารยังคงร้อนอยู่แบบนั้นนั่นเอง

• 2. แผงคอยล์ร้อนเสื่อมสภาพ

  หากพบว่าปัญหาที่คุณเจอ คือ “แอร์รถไม่เย็นขณะจอดอยู่นิ่ง ๆ แต่กลับทำความเย็นได้ดีในตอนรถวิ่ง หรือเฉพาะตอนกลางคืน” อาจเป็นเพราะว่าพัดลมระบายความร้อนหน้าแผงคอยล์ร้อนไม่ทำงาน หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไม่มีการระบายความร้อนออกมา

• 3. ระบบแอร์รั่ว

  อีกปัญหาที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็นก็คือ “ระบบแอร์รั่ว” หรือมีรอยรั่วในบริเวณต่าง ๆ เช่น สายท่อแอร์ ตู้แอร์ ข้อต่อ ส่งผลให้ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก หากต้องการเช็กว่าระบบแอร์มีรอยรั่วหรือไม่ สามารถเช็กได้ง่าย ๆ ด้วย “น้ำสบู่หรือน้ำผสมแชมพู (ตีให้เป็นฟอง)” จากนั้นนำไปทาตามจุดต่าง ๆ หากมีรอยรั่วที่บริเวณใดก็ตาม แรงดันจะทำให้ฟองสบู่ลอยตัวขึ้นมาตามรอยรั่วนั่นเอง

ไม่อยาก “แอร์รถยนต์พัง” อย่าทำ 5 ข้อนี้ !

หลังจากทำความเข้าใจสาเหตุแอร์ไม่เย็นไปแล้ว ต่อจากนี้มาดู 5 ข้อต้องห้ามกันบ้างดีกว่า เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะตามมามากกว่าเดิม ข้อต้องห้ามที่ว่า มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• 1. ปรับอุณหภูมิเย็นเกินไป

  อากาศร้อน ๆ แบบนี้เมื่อขึ้นรถหลายคนคงเลือกที่จะ “ปรับอุณหภูมิแอร์” ให้เย็นเร็วที่สุดใช่ไหมล่ะ ? แต่รู้ไหมว่าการทำแบบนี้อาจทำให้แอร์พังได้เลยล่ะ เพราะจะทำให้ความชื้นสะสมอยู่ในตู้แอร์เป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุของการอุดตันและเกิดสนิมได้ในระบบ แนะนำให้ปรับอุณหภูมิให้รู้สึกเย็นสบายจะดีกว่า เพื่อลดความเสี่ยงให้แอร์ตันโดยไม่จำเป็น

• 2. ละเลยการล้างแอร์

  หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจะต้องล้างแอร์รถยนต์ด้วย ในปัจจุบันสามารถล้างแอร์ได้หลายวิธี เช่น ถอดตู้แอร์ เป็นวิธีดั้งเดิมที่ทำกันมานานมากแล้ว และแบบไม่ถอดตู้แอร์ เป็นการส่องกล้องและหัวฉีดน้ำแรงดันสูง เพื่อทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นภายในตู้แอร์ แถมยังช่วยลดกลิ่นอับภายในตู้แอร์ได้อีกด้วย

• 3. ไม่เปลี่ยนกรองแอร์

  หลายคนนอกจากจะละเลยการล้างแอร์รถยนต์แล้ว ยังละเลยการเปลี่ยนไส้กรองแอร์อีกด้วย “ไส้กรองแอร์” นับเป็นชิ้นส่วนสำคัญของระบบแอร์ การไม่เปลี่ยนไส้กรองอาจทำให้แอร์ไม่เย็นหรือลมแอร์แรงไม่พอ เพราะไส้กรองเป็น “กรองอากาศ” ชั้นแรก ก่อนเข้าไปหมุนเวียนในระบบแอร์ จึงอาจมีสิ่งสกปรกอุดตันได้ง่ายยังไงล่ะ

• 4. ใช้งานโหมดออโต้เป็นประจำ

  การเปิดใช้งานแอร์ระบบออโต้ ระบบแอร์จะพยายามปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้ถึงค่าที่ตั้งไว้โดยเร็วที่สุด บางครั้งอาจเป็นการทำให้พัดลมแอร์เร่งไปถึงความเร็วสูงสุด “โดยไม่จำเป็น” โดยจะส่งผลต่ออายุการใช้งานโบลว์เออร์ในระยะยาว นอกจากนี้รถยนต์บางรุ่นเมื่อใช้งานโหมดออโต้ จะถือเป็นการดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามาบางส่วน แน่นอนว่าจะทำให้แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร รวมถึงยังทำให้กลิ่นควันเล็ดลอดเข้ามาภายในรถได้อีกด้วย

• 5. นำสารระเหยทิ้งไว้ในรถ

  แม้ว่าหลายคนจะชอบกลิ่นการบูรเพื่อเพิ่มความรู้สึกหอมสดชื่น แต่คุณรู้ไหมว่าการบูรมีการระเหิดอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปสะสมอยู่ในตู้แอร์ได้อีกด้วย และต่อจากนั้นหากความสกปรกมาเจอกับความชื้น จะส่งผลให้เกิดการอุดตัน รวมถึงกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี ผลที่ตามมาก็คือภายในรถของคุณจะเกิดกลิ่นอับในรถ และแอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร

ดูแลรถดี แอร์เย็นดี ! ก็หมดกังวลเรื่องการใช้งาน

แม้ว่าปัญหาแอร์ไม่เย็นจะทำให้การเดินทางของคุณหมดสนุก สาเหตุแอร์ไม่เย็นก็อาจจะเป็นเพราะว่าคุณเผลอไปทำ 5 สิ่งต้องห้ามที่เราเพิ่งบอกไปเมื่อสักครู่ก็ได้ หากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาดังกล่าว แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กจะดีที่สุด รวมถึงหมั่นเปลี่ยนไส้กรองและเติมน้ำยาแอร์อยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้แอร์รถยนต์ของคุณเย็นฉ่ำ ลดปัญหาใหญ่อื่น ๆ ตามมาในอนาคตแล้วล่ะ