เช็กสถานการณ์ราคาน้ำมันพรุ่งนี้ เว็บไหนแม่นยำที่สุด

เหตุผลที่ทำให้น้ํามันพรุ่งนี้ ราคาขึ้น-ลงอยู่ตลอด มีอะไรบ้าง ?

ประเด็นแรกที่หลายคนสงสัยกันมากที่สุด ว่าทำไมราคาน้ํามันพรุ่งนี้ถึงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด มันเป็นเพราะเหตุผลดังต่อไปนี้นั่นเอง

• 1. ต้นทุนของน้ำมันเชื้อเพลิง

  ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้คิดแค่ต้นทุนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเหมารวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เรียกว่าโครงสร้างน้ำมัน ได้แก่ ค่าภาษี ค่าแรงพนักงาน เงินสมทบจากรัฐบาล ค่าขนส่ง รวมถึงค่าการตลาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้ล้วนเป็น “ปัจจัย” ในการกำหนดราคาน้ำมันแทบทั้งสิ้น เมื่อปัจจัยใดเปลี่ยนแปลงไป ย่อมส่งผลให้ราคาน้ํามันพรุ่งนี้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยนั่นเอง

• 2. ราคาน้ำมันโลก

  ในส่วนของ “ราคาน้ำมันโลก” เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้น้ำมันพรุ่งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบันมีอัตราสูงขึ้น โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงจึงจำเป็นต้องเพิ่มการกลั่นให้สูงตามไปด้วย

  และการกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอต่อความต้องการ จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ ด้าน อาทิ ต้นทุน ค่าแรง รวมไปค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคา น้ํามัน วันนี้ พรุ่งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอนั่นเอง

• 3. ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบโดยตรง

  หลายคนอาจสงสัยว่า “ปัจจัยภายนอก”​ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงคืออะไร คำตอบคือสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ การเกิดพายุ หรืออื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการกลั่นน้ำมัน นอกจากจะทำให้การกลั่นน้ำมันลดลงแล้ว ยังมีการเก็งกำไรน้ำมันเชื้อเพลิง จึงทำให้ราคาน้ำมันไม่คงที่

• 4. การเก็งกำไร

  ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหนึ่งในความสนใจของนักลงทุน กองทุนบริหารความเสี่ยง ตลอดจนหลาย ๆ ภาคส่วน เพราะเป็นการซื้อขายแบบตลาดเปิด จึงมีนักลงทุนจำนวนมากที่เห็นความสำคัญ มาลงทุนเพื่อเก็งกำไร ทำให้ราคาน้ำมันผันผวนมากพอสมควร

• 5. ภาษี

  เนื่องจากมีการเรียกเก็บภาษีจากหลายภาคส่วน เช่น ภาษีสรรพสามิต, ภาษีเทศกาล, ภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งอัตราภาษีต่าง ๆ ดังกล่าว ล้วนส่งผลกระทบทำให้ราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ

ราคาน้ํามันดีเซล วันพรุ่งนี้ เช็คจากที่ไหนได้บ้าง ?

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองตามไม่ทันข่าวสารไม่ทัน โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ํามัน ปตท พรุ่งนี้, ราคาน้ํามันพรุ่งนี้ บางจาก, ราคาน้ํามัน shell พรุ่งนี้ และอื่น ๆ วันนี้เรามีแอปพลิเคชันดี ๆ มาบอกต่อ เพื่อให้คุณเช็กราคาน้ำมันของบริษัทต่าง ๆ ได้ก่อนใคร ซึ่งจะมีแอปไหนบ้าง? ตามไปดูกันเลย

• 1. ราคาน้ำมันวันนี้ - Oil Price Today

  หนึ่งในแอปพลิเคชันเช็คราคาน้ำมันพรุ่งนี้ยอดนิยม ช่วยแนะนำราคาน้ำมันประจำวันที่ถูกที่สุด ด้วยการเทียบจากสถานีบริการน้ำมันของแต่ละบริษัท แถมยังมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการปรับขึ้นหรือปรับลดราคาน้ํามันพรุ่งนี้ เพื่อให้คุณวางแผนการเติมน้ำมันล่วงหน้าได้ทันที

  นอกจากนี้ยังมีระบบบันทึกการเติมน้ำมันในแต่ละครั้ง ทั้งวันที่ จำนวนเงินพร้อมช่วยสรุปยอดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแบบรายเดือนอีกด้วย มีแอปนี้แอปเดียวก็ช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นเป็นกองเลยล่ะ

• 2. ราคาน้ำมันวันนี้ - Oil Price Update

  อยากเปรียบเทียบราคาน้ำมันทุกปั๊ม ราคาน้ำมันวันนี้ - Oil Price Update เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน คุณจะได้เห็นถึงความแตกต่างของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังมีกราฟแสดงราคาน้ำมันโลก ที่อัปเดตให้ดูแบบเรียลไทม์ ติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ก่อนใคร ที่สำคัญมีการแจ้งเตือนราคาน้ำมันทุกวันอีกด้วย

• 3. ราคาน้ำมัน

  อีกหนึ่งแอปพลิเคชันใช้งานง่าย แค่ดาวน์โหลดจะสามารถเช็กราคาได้ทันทีอย่าง “ราคาน้ำมัน” โดยสามารถเช็คราคาน้ำมันวันนี้ และราคาน้ำมันย้อนหลังได้ รวมถึงยังช่วยเปรียบเทียบส่วนต่างของราคาน้ำมันวันนี้และราคาน้ำมันพรุ่งนี้ เพื่อให้คุณเตรียมตัวเดิมน้ำมันล่วงหน้าได้

• 4. ราคาน้ำมันวันนี้ ราคาน้ำมันไทย

  แอปนี้สามารถเช็กได้ทั้งราคาน้ำมัน, ราคาก๊าซ LPG และราคาก๊าซหุงต้มได้ครบจบในแอปเดียว และยังมีหลายปั๊มน้ำมันให้เลือกเช็กราคาได้อย่างครบครัน ใช้งานง่าย ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แค่ดาวน์โหลดก็สามารถเช็คน้ำมันพรุ่งนี้ได้ทันที

• 5. TOP Energy

  สำหรับ TOP Energy เป็นแอปพลิเคชันของบริษัทในเครือไทยออยล์ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูล และบทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันแบบวันต่อวัน สรุปมาให้เข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับน้ำมัน และอัปเดตข้อมูลดี ๆ ให้ทุกวัน

• 6. Thailand Oil Price Today

  หากกำลังมองหาแอปเช็คราคาน้ำมันที่มีตารางเปรียบเทียบทั้งราคาปัจจุบัน ราคาย้อนหลัง รายเดือนและรายปี Thailand Oil Price Today อาจเป็นหนึ่งในแอปที่คุณกำลังตามหาอยู่ เพราะแอปนี้จะคอยแสดงการรายงานผลให้ดูง่าย ในรูปแบบกราฟ และยังสามารถดูข้อมูลเปรียบเทียบราคาน้ำมันได้ทุกปั๊ม

• 7. PTT Station

  อยากเช็คราคาน้ำมันวันต่อวัน แอปพลิเคชัน PTT Station เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ แถมยังเป็นแอปฯ ของปั๊มน้ำมัน ปตท. โดยตรง นอกจากจะสามารถเช็กราคาน้ํามัน ปตท พรุ่งนี้ได้แล้ว ยังช่วยค้นหาสถานีบริการน้ำมันที่ใกล้คุณได้อย่างแม่นยำ

  รวมถึงยังมีฟีเจอร์ในการนำทางไปยังปั๊มน้ำมันที่คุณต้องการ และยังสามารถรับข่าวสารพร้อมโปรโมชั่น และสิทธิพิเศษต่าง ๆ สำหรับสมาชิกได้ก่อนใคร บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งแอปที่อำนวยความสะดวกได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ

• 8. Bangchak

  แอปพลิเคชันจากปั๊มน้ำมันบางจาก ที่ช่วยให้คุณเช็กราคาน้ํามันพรุ่งนี้ บางจากได้ก่อนใคร ทางแอปฯ คอยอัปเดตราคาน้ํามันบางจาก พรุ่งนี้ทุกวัน เพื่อไม่ให้คุณพลาดราคาน้ำมันขึ้น-ลง แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์สุดพิเศษอีกมากมาย ดังนี้

  • การใช้คะแนนสะสมที่ได้จากการเติมน้ำมัน เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ
  • เช็คสถานีปั๊มน้ำมันใกล้คุณ

• 9. ราคาน้ำมันวันนี้

  ตัวแอปพลิเคชัน “ราคาน้ำมันวันนี้” จะช่วยให้คุณเช็คราคาน้ํามัน pt พรุ่งนี้, ราคาน้ํามัน shell พรุ่งนี้ และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว แถมยังเห็นถึงความแตกต่างของราคาน้ำมันวันนี้และพรุ่งนี้ ซึ่งตารางเปรียบเทียบใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนเลยสักนิด

นอกจากจะให้ความสำคัญในส่วนของแอปเช็คราคาน้ํามันพรุ่งนี้แล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญในเรื่องของการเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แถมไม่มีระบบแจ้งเตือนเหมือนแอปเช็คราคาน้ํามันวันนี้ พรุ่งนี้ ดังนั้นการมีประกันรถยนต์ที่คุ้มครองตอบโจทย์ พร้อมเคียงข้างทุกสถานการณ์ จะช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากกว่า ถ้าไม่รู้ว่าจะต้องเช็คกับที่ไหน มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์บริษัทชั้นนำในไทยมาให้คุณเปรียบเทียบเรียบร้อยแล้ว

แจกทริคเติมน้ำมันอย่างไร ให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด ?

อีกหนึ่งสิ่งที่คนมีรถควรให้ความสำคัญไม่ต่างกัน คือ ทริคเติมน้ำมันให้คุ้มค่าและประหยัดมากที่สุด เพราะไม่ว่าราคาน้ำมันพรุ่งนี้จะขึ้นราคาไปแค่ไหน รถยนต์ของคุณย่อมจำเป็นต้องพึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ดี แต่จะต้องเติมยังไงดีล่ะ? ไปดูกันเลย

• 1. ไม่ควรรอให้น้ำมันหมดถัง

  วิธีที่ช่วยประหยัดและเพิ่มความคุ้มค่าได้มากกว่า คือการเติมน้ำมันเมื่อเหลือครึ่งถัง เพราะน้ำมันบรรจุในถังมากเท่าไหร่ พื้นที่ว่างสำหรับไอระเหยจะยิ่งน้อยลงตามไปด้วย ทั้งนี้ไม่ควรเติมให้เต็มถังอยู่ดี เพราะไอที่ระเหยออกมาจะอัดแน่น จนไหลออกมาทางรูระบาย ควรเติมแบบพอดี ๆ จะดีกว่า

• 2. ปรับหัวจ่ายน้ำมันให้ช้าลง

  การปรับหัวจ่ายให้จ่ายน้ำมันช้าลง เนื่องจากน้ำมันสามารถระเหยเป็นไอได้ง่าย และน้ำมันอาจไหลย้อนกลับได้ แต่บ้านเราทำได้ค่อนข้างยาก เพราะมี “เด็กปั๊ม” คอยให้บริการทุกอย่าง จะไปปรับแต่งหรือจัดการเติมเองก็แปลก ๆ อยู่ แต่สิ่งที่ทำได้คือบอกเด็กปั๊มให้เติมน้ำมันช้า ๆ หรือเลือกเข้าปั๊มที่มีมาตรฐานหัวจ่าย

• 3. หลีกเลี่ยงปั๊มที่เจอรถส่งน้ำมัน

  กรณีที่ขับรถเข้าไปในปั๊มเพื่อหวังเติมน้ำมันก่อนปรับขึ้นราคา แต่กลับเจอรถบรรทุกน้ำมันหรือรถส่งน้ำมันกำลังถ่ายน้ำมันออก อย่าเพิ่งไปเติมเด็ดขาด เพราะในขณะนั้นจะทำให้ตะกอนใต้ถังลอยขึ้นมา เมื่อเราเติมน้ำมันที่มีตะกอนเหล่านั้นเข้าไป มันจะส่งผลไม่ดีต่อรถยนต์นั่นเอง

คิดบ้างไหม ว่ารถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ?

ในขณะที่ราคาน้ํามันพรุ่งนี้เพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน แต่คนที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย หรือจริง ๆ แล้วรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ากันนะ หากคุณสนใจหรือกำลังจะเปลี่ยนรถใหม่อยู่พอดี เรามาดูความคุ้มค่าในการ “ลงทุนระยะยาว” กันก่อนดีกว่า

• ความคุ้มค่าด้านการใช้งาน

  รถยนต์ไฟฟ้ามีการทำงานที่ซับซ้อน ‘น้อยกว่า’ รถยนต์น้ำมันทั่วไป แถมยังไม่มีเสียงดังรบกวน เดินเครื่องได้เร็วหรือตอบสนองได้ดี โดยไม่ต้องเร่งเครื่องตามรอบ พูดง่าย ๆ ว่าผู้ขับขี่สามารถเร่งเครื่องในอัตราที่ต้องการได้ตั้งแต่เริ่มต้นสตาร์ทเครื่องยนต์

• ความคุ้มค่าด้านค่าใช้จ่าย

  เนื่องจากทุกวันนี้ราคาน้ำมันโลกมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แม้จะทำให้หลายคนกังวลเรื่อง ‘ค่าไฟ’ ที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากลองเทียบในทุก ๆ 1 กิโลเมตร จะมีค่าต้นทุนพลังงานอยู่ที่ 0.37 บาทเท่านั้น และนอกจากจะมีต้นทุนที่ต่ำแล้ว ยังช่วยประหยัดในเรื่องค่าซ่อมบำรุงอีกด้วย เพราะรถยนต์ EV 100% มีแค่มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เท่านั้น

• ความคุ้มค่าต่อสิ่งแวดล้อม และโลกของเรา

  “ภาวะโลกร้อน” ในปัจจุบัน นับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราต้องร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง คือ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงซึ่งถูกปล่อยออกมาทางท่อไอเสียรถยนต์ และยังเป็นมลพิษบนท้องถนน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ จึงถือเป็นวิธีรักษ์โลกที่เห็นผลมากกว่าเป็นไหน ๆ